หากว่าเอ่ยถึงต้อกระจก หลายๆ คนอาจจะรู้ว่าเป็นภาวะที่ทำให้มองเห็นภาพได้แบบไม่ชัดเจน โดยลักษณะของการมองเห็นภาพที่ไม่ชัดเจนนั้นมีหลายต่อหลายแบบ แต่ส่วนมากแล้วมักจะมีอาการที่ค่อยๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้น อาจเป็นเดือนหรือเป็นปีก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีเรื่องน่ารู้ของการผ่าต้อกระจกนั้นมีอะไรบ้าง มาดูพร้อมๆ กันเลย
สาเหตุของต้อกระจก
- อายุที่มากขึ้น คือสาเหตุสำคัญของคนที่ป่วยด้วยโรคต้อกระจก ส่วนมากแล้วคนที่อายุมากกว่า 50 ปี ก็มีโอกาสที่จะเป็นต้อกระจกได้เช่นกัน
- ยาสเตียรอยด์ หลายคนอาจไม่รู้ว่ายาสเตียรอยด์เป็นยาที่ก่อให้เกิดสาเหตุของโรคต้อกระจกได้ โดยคนที่มีโอกาสจะได้รับยานี้ได้แก่โรคภูมิแพ้ โรค SLE หรือคนที่ชอบการรับประทานยาสมุนไพร ยาหม้อที่ไม่ได้มาตรฐานการผลิต หรือยาที่ไม่ได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา
- อุบัติเหตุทางตา อีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญมากที่สุดก็คืออุบัติเหตุทางสายตา ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดโรคต้อกระจกได้นั่นเอง
- แสงยูวี สำหรับแสงยูวีจัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต้อกระจก ซึ่งวิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการสวมแว่นกันแดด
ผลแทรกซ้อน
แท้ที่จริงแล้วโรคต้อกระจกเป็นโรคที่ไม่ได้ป่วยอย่างเฉียบพลัน และไม่มีผลแทรกซ้อนใดมาก แต่อย่างไรก็ดีมีภาวะที่อันตรายมากคือภาวะต้อหินนั่นเอง ต้อหินเกิดจากเลนส์ตาสุกเต็มที่แล้วบวม จนกระทั่งปิดทางระบายน้ำในลูกตา ทำให้น้ำในลูกตาระบายไม่ได้และเกิดอาการปวดตามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และทำให้ปวดแบบเฉียบพลันนั่นเอง อย่างไรก็ดีอาการปวดตาแบบเฉียบพลันจะพบในคนป่วยที่เป็นโรคต้อกระจกมานานจนสุกแล้ว ซึ่งจะเรียกว่าต้อหินที่เกิดจากต้อกระจกที่บวมเปล่ง และจะเห็นได้ว่าคนไข้มีอาการปวดตา ตาแดงแบบเฉียบพลัน เมื่อส่องไฟก็จะเห็นว่าตาดำและตาขาวผิดปกติ เมื่อเกิดอาการปวดขึ้นมาก็ไม่สามารถรับประทานยาใดเพื่อแก้ไขได้
การรักษาต้อกระจก
ต้อกระจกมีการรักษาเพียงอย่างเดียวคือการผ่าต้อกระจกเปลี่ยนเลนส์ตา โดยเป็นวิธีมาตรฐานทั่วโลกและนิยมมากที่สุด เรียกว่า Phacoemulcification ซึ่งก็คือการใช้เครื่องเสียงความถี่สูงเข้าไปสลายเลนส์ตาเก่าให้มีขนาดเล็กแล้วจากนั้นจึงใส่เลนส์ตาใหม่เข้าไป
จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าการศึกษาข้อมูลเรื่องโรคต้อกระจกและผ่าต้อกระจกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง และควรเลือกพิจารณาให้เหมาะสมและตอบโจทย์มากที่สุดในทุกกรณี ทั้งการเลือกสถานประกอบการที่มีคุณภาพ และเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญมากพอ